ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้คนหันมาใช้ “จอแอลอีดี” หรือ “LED Screen” กันมากขึ้น ทั้งในธุรกิจ ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ ด้วยคุณสมบัติการแสดงผลที่คมชัดและสีสันสดใสของ “LED Display” อย่างไรก็ตาม เมื่อ “จอ LED” เหล่านั้นหมดอายุการใช้งาน กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมได้

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้คนหันมาใช้ “จอแอลอีดี” หรือ “LED Screen” กันมากขึ้น ทั้งในธุรกิจ ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ ด้วยคุณสมบัติการแสดงผลที่คมชัดและสีสันสดใสของ “LED Display” อย่างไรก็ตาม เมื่อ “จอ LED” เหล่านั้นหมดอายุการใช้งาน กลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมได้

ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้น

ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปีพบว่ามีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงขยะจากจอแสดงผลประเภทต่างๆ ทั้ง “กระดานอัจฉริยะ” และ “จอ LED” ด้วย หากขยะเหล่านี้ถูกทิ้งปะปนกับขยะทั่วไปและไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม อาจทำให้สารพิษปนเปื้อนลงดินและแหล่งน้ำ ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาวได้

สารพิษหลักที่พบในขยะจอแอลอีดี ได้แก่ ตะกั่ว (Lead) ปรอท (Mercury) และแคดเมียม (Cadmium) หากสารเหล่านี้ถูกปล่อยออกสู่ธรรมชาติจะส่งผลต่อคุณภาพน้ำ ดิน อากาศ ตลอดจนปนเปื้อนในห่วงโซ่อาหาร เกิดการสะสมในสิ่งมีชีวิต และทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ผลต่อระบบประสาท ความผิดปกติของทารกในครรภ์ รวมถึงโรคมะเร็งต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมอีกด้วย

E-Waste ชวนคนไทย ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี

จากปัญหาดังกล่าว กรมควบคุมมลพิษจึงได้จัดทำโครงการ “E-Waste” ขึ้น เพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทิ้งขยะเหล่านี้อย่างถูกวิธี เมื่อ “จอแอลอีดี” หรือ “LED Screen” ของเราหมดอายุการใช้งานแล้ว ควรให้ความใส่ใจกับการกำจัดอย่างเหมาะสม โดยไม่นำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป แต่ให้คัดแยกเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปส่งที่ศูนย์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานในพื้นที่

ศูนย์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ พร้อมรองรับขยะ “จอ LED”

ปัจจุบัน ศูนย์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งของภาครัฐและเอกชนมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งทุกแห่งมีความพร้อมในการรองรับการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงขยะ “จอ LED” โดยศูนย์เหล่านี้จะมีกระบวนการแยกชิ้นส่วน เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมทั้งมีวิธีการกำจัดชิ้นส่วนที่เป็นพิษอย่างปลอดภัย ไม่ให้สารพิษรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม เช่น การนำชิ้นส่วนพลาสติกไปบดย่อยนำมารีไซเคิล การถอดชิ้นส่วนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่น หรือการนำแผงวงจรไปสกัดโลหะมีค่ากลับมาใช้ได้อีก เป็นต้น

ทั้งนี้ หากต้องการค้นหาศูนย์กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ใกล้บ้าน สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.pcd.go.th ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลของศูนย์ฯ ทั่วประเทศไว้อย่างครบถ้วน พร้อมระบุสถานที่ตั้ง วิธีการติดต่อและนัดหมายกำจัดขยะ และรายละเอียดอื่นๆ อีกด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือจากพวกเราทุกคน ในการคัดแยกและทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็น “จอแอลอีดี” “LED Screen” “LED Display” หรือ “กระดานอัจฉริยะ” เมื่อหมดอายุการใช้งาน ควรนำไปกำจัดยังสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ ให้กับคนรุ่นต่อไปได้อย่างยั่งยืน